น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า ของสำคัญที่ห้ามลืมดูแลเด็ดขาด!

Last updated: 29 ก.ค. 2568  | 

น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า ของสำคัญที่ห้ามลืมดูแล

น้ำมันหม้อแปลง (Transformer Oil) ไม่ใช่แค่ของเหลวไว้แช่หม้อแปลงให้เย็น แต่คือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าแรงสูง หรือโรงงานอุตสาหกรรมอยู่รอด ไม่ลัดวงจร ไม่ระเบิด ไม่ไหม้จนต้องมานั่งเขียนรายงานอุบัติเหตุส่งให้หัวหน้าตอนตีสอง

ผมยังจำคืนนั้นได้ดี ประมาณตี 2 กว่าคืนวันพฤหัสตามปกติเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา ต่างกันที่คืนนี้มีเสียงโทรศัพท์ดังที่ถ้าไม่ตื่นขึ้นมารับมันคงไม่หยุดดังแน่ ๆ

เบอร์ลูกค้าขึ้นโชว์หน้าจอ ผมรู้เลยทันที ต้องอะไรสักอย่างระเบิดขึ้นแน่นอน และก็จริงดังคาดพอผมรับสาย เสียงปลายสายไม่พูดไรเยอะ หม้อแปลงพังครับ ไฟดับทั้งโรงงาน พี่ช่วยมาดูหน่อย

พอผมไปถึงเงียบกันทั้งไซต์ เหมือนฉากก่อนระเบิดในหนังสงคราม พนักงานก็ยืนงงกันทั้งแผง ทีมช่างของโรงงานกำลังคลานเข้าไปดูหม้อแปลง

ผมถามคำเดียว ตรวจน้ำมันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? ไม่มีใครตอบ เสียงแมลงตอนกลางคืนยังดังกว่า



น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าทำไมถึงสำคัญ

ในระบบไฟฟ้าแรงสูงหรือแม้แต่หม้อแปลงทั่วไป น้ำมันหม้อแปลงไม่ได้เอาไว้แค่เติมให้เต็มถัง แต่คือ ตัวกลางสำคัญ ที่ทำให้หม้อแปลงไม่พังก่อนเวลา

ขาดน้ำมันหม้อแปลง = หม้อแปลงพร้อมพังได้ตลอดเวลา


มาดูหน้าที่กันชัด ๆ ทีละข้อครับว่า มีอะไรบ้าง

1. ระบายความร้อน (Cooling)

พอไฟวิ่ง ระบบร้อน น้ำมันหม้อแปลงนี่แหละที่ช่วยดูดความร้อนจากขดลวดและแกนเหล็ก ระบายออกไปที่ผิวหม้อแปลง ถ้าไม่มี = หม้อแปลงไหม้ = พังทั้งระบบ

2. เป็นฉนวนไฟฟ้า (Insulation)

กันไม่ให้ไฟลัดวงจร ไฟโดดไปโดนโครงเหล็กทีนี่คือ บรรลัยวายวอด หายนะมาเยือน

3. ป้องกันความชื้นและอากาศ (Preservation & Sealing)

กันอากาศ กันความชื้นไม่ให้เข้าไปกินขดลวดข้างใน เพราะถ้ามีความชื้นเมื่อไหร่ เตรียมเจอ Short circuit ได้เลยครับ


ประเภทของน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าที่ต้องรู้ไว้ก่อนจะได้ไม่พลาด

แบ่งตามชนิดของน้ำมันพื้นฐาน (Base Oil Type) 2 ชนิด ดังนี้

Naphthenic Oil (แนฟทินิก)

  • โครงสร้างวงแหวนปิดและพันธะเดี่ยว
  • ระบายความร้อนได้ไว
  • จุดไหลเท Pour point ต่ำ เหมาะกับที่อุณหภูมิต่ำ
  • ใช้เยอะมากในระบบหม้อแปลงอุตสาหกรรม
  • ตัวท็อปสายงานหม้อแปลง ไม่ต้องคิดเยอะ

Paraffinic Oil (พาราฟินิก)

  • โครงสร้างสายตรง
  • เสถียรต่อการเกิดออกซิเดชันได้ดี ทนความร้อน
  • จุดไหลเทสูงกว่านิดหน่อย
  • ต้องระวังเรื่อง Sludge ถ้าใช้นานแล้วไม่ดูแล (ตะกอนที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของน้ำมันหม้อแปลง)
  • ใช้ได้แต่ต้องมีวินัย

เปรียบเทียบ แนฟทินิก vs พาราฟินิก

คุณสมบัติหลักแนฟทินิก (Naphthenic)พาราฟินิก (Paraffinic)
การระบายความร้อนระบายได้ไวกว่า เพราะความหนืดต่ำกว่าที่อุณหภูมิต่ำระบายได้ดี แต่ความหนืดสูงกว่า → ไหลช้ากว่าในอุณหภูม่ต่ำ
ทนความร้อน (Oxidation Stability)ทนได้ปานกลาง → เสื่อมเร็วถ้าใช้โหดๆ ไม่ดูแลทนได้ดีกว่า เสื่อมช้ากว่าเยอะในงานโหลดหนัก/ร้อนจัด
จุดไหลเท (Pour Point)ต่ำ → เหมาะกับที่อากาศเย็น หม้อแปลงยังทำงานลื่นสูงกว่า → เสี่ยงแข็งตัวถ้าอยู่ในที่หนาว
ความเสี่ยงเกิด Sludgeต่ำกว่า → ไม่ค่อยสะสมตะกอนสูงกว่า → ถ้าไม่ดูแลอุดหม้อแปลงจนพังแน่นอน
ความนิยมใช้งานจริงใช้เยอะในหม้อแปลงแรงสูง, พื้นที่หนาว, โหลดสวิงบ่อยๆใช้ในระบบทั่วไป, งานที่อุณหภูมิคงที่, งบจำกัด


วิธีการเลือกน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าให้เหมาะกับงาน (Application Type)

การเลือกน้ำมันตามลักษณะงาน ไม่ได้หมายถึงการใช้น้ำมันคนละชนิด แต่คือการเลือก เกรดและคุณภาพ ที่เหมาะกับภาระของหม้อแปลงในแต่ละแบบเท่านั้น


-- แผ่นป้ายหม้อแปลง (Nameplate Transformer) เปรียบเหมือนบัตรประชาชนของหม้อแปลง เอาไว้บอกสเปก ชนิด ค่าแรงดัน กระแส โครงสร้าง และข้อมูลเทคนิคที่สำคัญสำหรับวิศวกรไฟฟ้า

Power Transformer Oil

  • ใช้กับหม้อแปลงแรงสูง (ตั้งแต่ 1 MVA ขึ้นไป) ที่อยู่ในระบบส่งไฟฟ้า
  • ต้องใช้น้ำมันเกรดสูง ที่มีคุณสมบัติเฉพาะด้าน เช่น
    • Breakdown Voltage* สูง
    • เสถียรต่อการเสื่อมสภาพ (Oxidation Stability สูง)
    • ค่าความชื้นต่ำมาก
    • ต้องผ่านมาตรฐาน IEC / IEEE / ASTM


เพราะความผิดพลาด คือ โหลดดับทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ฟิวส์ขาดในบ้าน!

นิยมใช้น้ำมันประเภท Naphthenic เกรดสูง, Synthetic, หรือ Ester แล้วแต่เงื่อนไข

ตรวจเข้มด้วย DGA, BDV, Acidity, Water Content ฯลฯ ทุกระยะ

*BDV (Breakdown Voltage) = ค่าความสามารถของน้ำมันในการทนแรงดันไฟฟ้า (ค่าฉนวนไฟฟ้า)

ถ้าค่านี้ต่ำ หม้อแปลงลัดวงจรได้ง่าย → พังทั้งระบบไม่รู้ตัว

Distribution Transformer Oil

  • ใช้กับหม้อแปลงทั่วไป เช่น เสาไฟฟ้า, โรงงาน, อาคารพาณิชย์
  • แรงดันต่ำกว่า กำลังไฟฟ้าน้อยกว่า Power
  • ยังต้องใช้คุณภาพดี แต่ระดับการควบคุมเข้มงวดน้อยกว่า
    • ค่า BDV ≥ 30kV ก็เพียงพอ
    • ไม่เน้นโหลดสวิงหรือการใช้งาน Extreme
  • เปลี่ยน/บำรุงรักษาน้อยกว่าพวก Power แต่ก็ต้องไม่ปล่อย


-- ตัวอย่างหม้อแปลงไฟฟ้าแบบติดตั้งบนเสา (Pole-mounted Transformer) ขนาด 315 kVA สำหรับใช้งานในระบบจำหน่ายแรงต่ำทั่วไป

มักใช้ Naphthenic หรือ Paraffinic เกรดมาตรฐาน

ใช้ร่วมกับมาตรฐานเดียวกัน เช่น IEC 60296 แต่เกณฑ์ค่าต่างกัน

มิเตอร์ย่อย (Sub-Meter)

รายการPower Transformer OilDistribution Transformer Oil
กำลังหม้อแปลงสูง (1 MVA ขึ้นไป)ต่ำ-กลาง (ไม่เกิน 1 MVA)
ความเข้มงวดในการเลือกน้ำมันสูงมาก (ต้องคุมทุกค่า)ปานกลาง (ยังต้องคุมแต่ไม่โหด)
ประเภทน้ำมันที่ใช้Naphthenic เกรดสูง / Synthetic / EsterNaphthenic / Paraffinic มาตรฐาน
ตรวจบำรุงสม่ำเสมอ รายปี / ตามโหลดปีละครั้ง หรือกรณีพบความผิดปกติ


ต้องตรวจอะไรบ้างในน้ำมันหม้อแปลง?

คำถามที่เจอบ่อยจัด ควรเปลี่ยนน้ำมันหม้อแปลงทุกกี่ปี?

พูดกันตามตรงแบบไม่หมกเม็ดนะครับ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามรอบปีแบบตายตัว แต่ควรอิงจาก ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำมัน เป็นหลัก แล้วต้องตรวจอะไรบ้างมาดูกัน


-- เครื่องทดสอบคุณสมบัติทางไฟฟ้าของน้ำมันหม้อแปลง (BDV Test) สำหรับวัดค่าความเป็นฉนวนของน้ำมัน

1. Breakdown Voltage (ค่าฉนวนไฟฟ้า):

  • ค่านี้ห้ามต่ำกว่า 30 kV (ตาม IEC 60156)

ต่ำกว่านี้ น้ำมันเริ่มเสื่อม → เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

2. Water Content (ค่าความชื้น):

  • ค่านี้ควรน้อยกว่า 35 ppm

สูงกว่านี้ ความชื้นสูง → เสี่ยงไฟรั่ว

3. Acidity (ค่าความเป็นกรด):

  • ไม่เกิน 0.3 mg KOH/g

หากค่านี้สูง → ขดลวดและฉนวนจะโดนกัดกร่อน

4. Dissolved Gas Analysis (DGA):

เช็กว่าในระบบมันกำลังจะลุกไหม้มั้ย → มี Partial Discharge, Arcing, Overheating เกิดขึ้นหรือไม่


สรุปสั้น ๆ เปลี่ยนน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้าสำคัญแค่ไหน

โคตรสำคัญ! เพราะน้ำมันหม้อแปลงไม่ใช่น้ำใส ๆ ที่จะเสื่อมเมื่อไหร่ก็ได้

  • น้ำมันเสื่อม = ฉนวนหาย = ไฟลัดวงจร
  • น้ำมันสกปรก = ความร้อนสะสม = หม้อแปลงไหม้

การเปลี่ยนน้ำมันหม้อแปลงไม่ใช่ อยากเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็เปลี่ยน แต่ควร ดูจากผลวิเคราะห์คุณภาพน้ำมัน และใช้มาตรฐานทางวิศวกรรมไฟฟ้า เช่น IEC, IEEE เป็นเกณฑ์ตัดสิน ถ้าเสื่อมเมื่อไร ควรกรองหรือเปลี่ยนทันที

ถ้าคุณไม่ตรวจ / ไม่เปลี่ยน = คุณกำลังจองศาลาวัดให้หม้อแปลงไปเกิดใหม่อยู่โดยไม่รู้ตัว!


สนใจตรวจ/เปลี่ยน น้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า สามารถติดต่อเรา บริษัทบิ๊กโกลด์เอ็นจิเนียริ่งจำกัด ได้ทาง


Line Big gold Engineering

Facebook ฺBig gold Engineering


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้